วันที่ 24 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 น. นายวีรพันธุ์ นิลวัตร เกษตรอำเภอเมืองนราธิวาส มอบหมายให้นายธีรัตน์ ภู่เบญญาพงศ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ พร้อมด้วย นางสาววารุณี แซ่ล๊ก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการกลุ่มอารักขาพืช เข้าร่วมประเมินสถานการณ์และให้คำแนะนำความรุนแรงโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตร ได้แก่ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส สถานีพัฒนาที่ดินนราธิวาส ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรรือเสาะ การยางแห่งประเทศไทย และสำนักงานสหกรณ์นราธิวาส ณ สวนยางของสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนบ้านโคกเคียน หมู่ที่ 8 ตำบลโคกเคียน โดยสรุปการประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของโรคใบร่วงยางพารา
1.โรคใบร่วงยางพาราพบอาการติดเชื้อในทุกแปลงโดยความรุนแรงขึ้นอยู่กับการดูแลของเจ้าของสวนสภาพโดยรวมพบว่ามีการระบาดที่ไม่รุนแรงมากนัก
2.จากการสำรวจแปลงที่มีการดูแลรักษาและฉีดพ่นไตรโคเดอร์ม่าทุกๆสัปดาห์ พบว่าอาการของโรคใบร่วงยางพาราลดลงมาก ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่าในสวนยางในพื้นที่อื่น พบว่าเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าสามารถปกคลุมเชื้อใบร่วงยางพาราได้
3.พบราแป้งระบาดในสวนยางพาราบางแปลงพบในใบอ่อนอาการของโรค มีลักษณะจุดฝ้าขาวที่ในยางพารา จากนั้นมีอาการเหี่ยว และร่วงในที่สุด เริ่มพบแพร่กระจายในหลายแปลง
คำแนะนำในการกำจัดราแป้ง
1 ให้ใช้สารเคมีที่มีความเป็นด่าง เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก เป็นต้น ฉีดพ่นทรงพุ่ม
2 ใช้ปุ๋ย 21-0-0 เพื่อเร่งการแก่ของใบอ่อน
ปัญหาอุปสรรค
1. การนำน้ำเข้าไปในพื้นที่ และอุปกรณ์ในการฉีดพ่น ไม่สามารถฉีดพ่นได้ทั่วถึง
2. แปลงที่มีการะบาดมากไม่ได้เป็นแปลงของสมาชิก จึงตามตัวเจ้าของแปลงได้ยาก
แนวทางการปฎิบัติ
1.สร้างการรับรู้เกษตรกรและขอความร่วมมือในพื้นที่ในการเฝ้าระวัง
2. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยางพารา สร้างความสมบูรณ์ให้แก่ต้นยาง และใช้ระบบการกรีดที่เหมาะสม
3.คัดเลือกเกษตรกรที่มีความพร้อมและความต้องการในการรักษาโรคใบร่วงยางพาราและสนับสนุนเพื่อเป็นแปลงต้นแบบแก่เกษตรกรในพื้นที่
4.หน่วยงานราชการที่มาทำการทดลองควรมีแผนในการติดตามอย่างต่อเนื่อง
5.หน่วยงานราชการเจ้าของโครงการควรชี้แจงโครงการให้เกษตรกรทราบ ถึงตัวโครงการและแนวทางในการปฎิบัติอย่างชัดเจน
6.หน่วยงานราชการควรแนะนำและสอนให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถเก็บผลการทดลองและสามารถติดตามผลได้เพื่อช่วยติดตามผล เพื่อการติดตามผลที่ต่อเนื่อง